วันอังคารที่ 4 กันยายน พ.ศ. 2555

เรื่องสั้นเรื่อง : ก็แค่บ่นไปเรื่อย


นั่งเหม่อมองออกไปนอกหน้าต่าง ฉันคิดว่าตัวเองใกล้จะเป็นคนบ้าเข้าไปทุกที
ฉันนั่งรออย่างไม่มีสาระ  แต่ก็ไม่ได้แปลว่าฉันไม่มีจุดมุ่งหมายนะ
สิ่งนั้นฉันมีเสมอ ฉันหวังในบางสิ่งบางอย่างที่ตัวเองไม่เข้าใจ ทำไมต้องไปคาดหวังและใส่ใจมากมายขนาดนี้กัน
เฮ้ออ เบื่อตัวเองโว้ยยยย ตอนนี้กลับกลายเป็นว่าทำอะไรไม่ได้สักอย่าง
เอาแต่นั่งเขียนอะไรไร้สาระอยู่คนเดียว    มันไร้สาระจริงๆนั่นแหละ
เสียงพัดลมสั่นกึกๆเล็กน้อยบนเตียงนอน
เสียงหวีดอะไรไม่รู้ดังหึ่งๆมาจากข้างนอกนั่น  แต่ขี้เกียจลุกออกไปดูว่ามันคืออะไร  เพราะรู้ไปมันก็เท่านั้น
จะรู้ไปเพื่อ!!!!  แล้วก็นั่งกลับไปอ่านที่พิมพ์ข้างบน แกนั่งเวิ่นเว้ออะไรของแกเนี่ย ห่ะ!!!
ฉันสูดลมหายใจเข้าลึกๆหนึ่งที นั่งเหยียดหลังตรง นั่งมองสัญญาณเน็ตที่จะตายแหล่มิตายแหล่
เวรกรรมจริงๆ แล้วก็ได้แต่นั่งเกาหัว  พิมพ์ต่อไป เพราะยังนึกอะไรไม่ออก
หยุดแป็บหนึ่งแล้วก็พิมพ์ต่อ  ทำไมมันน่าเบื่ออย่างนี้ว่ะ
เสียงมอเตอร์ไซต์คันเดิมอีกแล้ว  ได้ยินมาสามปีกว่าจนจำได้
และด้วยความเมื่อย จึงเหยียดแขนออกไปจนสุด บิดขี้เกียจอีกนิดหน่อยพอเป็นพิธี
จะเที่ยงแล้วเหรอ  ทำไมเวลามันเร็วนักนะ
เหล่ตามองด้านขวาล่างของโน๊ตบุ๊ค แม๊มเอ๊ย... เน๊ตแมร่งปลวกจริง เอาใจกรูไปเลยเมิง
จะเอาไงดี ออกไปข้างนอก หรือว่าจะลองนั่งพิมพ์นั่งรื้อ เรื่องเก่าๆเล่น 
แต่ก็ยังไม่มีอารมณ์ถึงขั้นนั้น  มันยังไม่ถึงที่สุดจริงๆ งั้นก็พักไว้ก่อน
นี้แกขี้เกียจอีกแล้วนะ........เออ ยอมรับ ก็เป็นคนแบบนี้แหละ  อารมณ์ไม่เคยนิ่ง
อยู่กันมายี่สิบสองปียังไม่เข้าใจตัวเองอีกเหรอไง
เออๆๆๆ ไม่เถียงด้วยก็ได้ว่ะ  ไอบ้า คุยกับคนอย่างแกนานๆ ประสาทจะกิน
เพิ่งรู้หรือไง............ เฮ้อออ กรรม